ปิดฉากเลือกตั้งใหญ่ “มาเลเซีย” กับความวุ่นวายทางการเมืองครั้งใหม่
ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในการเลือกตั้งทั่วไปในต่างประเทศที่มีสีสันและถูกจับตามองมากที่สุดสังเวียนหนึ่งในปี 2013 นี้ คือการเลือกตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นในแดนเสือเหลือง มาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านของเรานั่นเอง
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ว่า นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ของมาเเลซีย ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาเตรียมเหมาเครื่องบินขนผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งนับหมื่น ไปลงคะแนนในหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ ในวันพรุ่งนี้ โดยพรรคสหมาเลย์แห่งชาติ หรือพรรคอัมโนของเขา กล่าวว่า เที่ยวบินถูกเหมาโดยกลุ่มผู้สนับสนุน ไม่ใช่สำนักนายกรัฐมนตรีของนายอันวร์ พวกเขาพยายามที่จะช่วยเหลือประชาชนให้กลับบ้านได้สะดวกเพื่อไปลงคะแนนเลือกตั้ง
ทั้งนี้ พรรคฝ่ายค้าน กล่าวว่า มีการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งอย่างกว้างขวางในการเลือกตั้งที่สูสีที่สุดตั้งแต่มาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 2510 ส่วนนักวิจัยคนหนึ่งพบพิรุธ มีผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งอายุเกิน 100 ปีจำนวนมาก ในรัฐซาบาห์ ทางตะวันออกของประเทศ ขณะที่ กรรมาธิการจัดการเลือกตั้ง กล่าวว่า ได้ทำทุกอย่างแล้วเท่าที่สามารถทำได้เพื่อรับประกันว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะขาวสะอาดที่สุดในประวัติศาสตร์มาเลเซีย แต่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้วยทั้งพรรครัฐบาลและฝ่ายค้าน ต่างมีคะแนนนิยมสูสีกันในผลการสำรวจความคิดเห็น ข้อกล่าวหาว่ามีการโกงการเลือกตั้ง อาจบั่นทอนความน่าเชื่อถือในหมู่ประชาชน ซึ่งอาจกระทบต่อผลเลือกตั้งได้
*** ผลการนับคะแนนการเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซีย ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (5 พ.ค.) ปรากฎว่า พรรคแนวร่วมรัฐบาลสามารถคว้าชัยชนะไว้ได้อีกครั้ง ทำให้ได้ครองอำนาจต่อไปอีกเป็นปีที่ 56 ติดต่อกัน ***
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ว่า ผลการนับคะแนนการเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซีย ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (5 พ.ค.) ปรากฏว่า หลังปิดหีบลงคะแนนผ่านไปประมาณ 9 ชั่วโมง และนับบัตรได้กว่า 2 ใน 3 ของทั้งหมด พรรคร่วมรัฐบาลในนาม “แนวร่วมแห่งชาติ” นำโดยพรรคอัมโนของ นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค คว้าชัยชนะได้สำเร็จ เมื่อได้ ส.ส. เข้าสู่รัฐสภาแล้วอย่างน้อย 127 ที่นั่ง ครองเสียงข้างมากจากทั้งหมดในรัฐสภา 222 ที่นั่ง สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้โดยเอกเทศ ขณะที่แนวร่วมฝ่ายค้าน 3 พรรค นำโดยนายอันวาร์ อิบราฮิม ได้ ส.ส. แล้ว 77 ที่นั่ง นับเป็นชัยชนะการเลือกตั้งทั่วไป 13 ครั้งติดต่อกัน ของพรรคแนวร่วมแห่งชาติ ซึ่งผูกขาดครองอำนาจเป็นรัฐบาลมาตลอด ตั้งแต่มาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อปี พ.ศ. 2500 และเป็นชัยชนะที่ค่อนข้างผิดความคาดหมายก่อนหน้านี้ ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ชี้ว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่สุดจากฝ่ายค้าน เจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติมาเลเซีย เผยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีประชาชนที่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนราว 13 ล้านคน ตัวเลขผู้ที่ออกไปใช้สิทธิสูงถึง 80 % หรือกว่า 10 ล้านคน โดยการลงคะแนนมีขึ้นในหน่วยเลือกตั้งกว่า 8,000 หน่วยทั่วประเทศ ระหว่างเวลา 08.00 น. – 17.00 น.
การเลือกตั้งทั่วไปในประเทศมาเลเซีย พ.ศ. 2556
|
|
|
ทั้ง 222 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร และทั้ง 505 ที่นั่งในสภานิติบัญญัติรัฐใน 12 รัฐของมาเลเซีย (ยกเว้นรัฐซาราวัก) ฝ่ายข้างมากต้องได้เกิน 112 ที่นั่ง |
ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง | 84.84% |
| พรรคที่หนึ่ง | พรรคที่สอง |
| | |
ผู้นำ | นาจิบ ราซะก์ | อันวาร์ อิบราฮิม |
พรรค | พรรคแนวร่วมแห่งชาติ | พรรคปากาตัน รักเกียต |
ผู้นำตั้งแต่ | 3 เมษายน 2552 | 28 สิงหาคม 2551 |
ที่นั่งผู้นำ | ปกัน | เปอร์มาตังปาอูห์ |
ผลครั้งที่แล้ว | 140 ที่นั่ง, 50.27% | 82 ที่นั่ง, 46.75% |
ที่นั่งที่ได้ | 133 | 89 |
เปลี่ยนแปลง | ▼ 7 | ▲ 7 |
คะแนนเสียง | 5,237,699 | 5,623,984 |
ร้อยละ | 47.38% | 50.87% |
Swing | ▼ 2.89% | ▲4.12% |
|
นายกรัฐมนตรี ก่อนการเลือกตั้ง
| นายกรัฐมนตรีที่ได้รับแต่งตั้ง
|
|
|
อันวาร์ อิบรอฮิม |
|
|
นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค |
|
|
|
ประชาชนหลายหมื่นคนเข้าร่วมชุมนุมกับฝ่ายค้านมาเลเซีย เพื่อแสดงพลังไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง |
|
|
|